ประวัติความเป็นมา
รากฐานของเทควันโดคือแทกคียอน รูปแบบการต่อสู้แบบดั้งเดิม ในทางกลับกันแทกคียอนนั้นย้อนอดีตกลับไปสู่ยุคที่เกาหลียังอยู่กันเป็นชนเผ่า แทกคียอนนั้นเป็นการรู้กันในชื่อที่แตกต่างกันไปจากยุคสู่ยุคและถูกพบว่ามีการเติบโตอย่างรวดเร็วในยุคของสามอาณาจักร ( ช่วงระหว่างศตวรรษที่สี่ถึงเจ็ดคราวที่อาณาจักรโกกุเรียว ซิลลาและแบกเชต่อสู้กันเองเพื่อชิงความเป็นใหญ่ในคาบสมุทรเกาหลี ) หลังจากนั้นแทกคียอนมีการพัฒนามากขึ้นและมีวิวัฒนาการในระหว่างยุคกอร์เยว ( ค . ศ . 918 - 1392) ช่วงเวลาที่ผู้ที่มีทักษะในการต่อสู้ได้รับการนับถือกันมาก ระหว่างช่วงเวลานั้น แทคคียอนใช้เป็นเครื่องมือในการเลื่อนยศของกองทัพ แต่สิ่งต่างๆเปลี่ยนไปเมื่อมาถึงยุคโชซอน ( ค . ศ . 1392 -1910) เมื่อมีการใช้ดาบกันมากขึ้น ทำให้แทกคียอนค่อยๆลดต่ำลงจนไม่เห็นคุณค่า ขณะนี้เทควันโดซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากแทกคียอนได้รับการยอมรับว่าเป็นกีฬาระดับโลกซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามอันหนักหน่วงของผู้คนต่างๆมากมาย
เหตุผลว่าเทควันโดสามารถได้รับความสำเร็จแบบนี้ในยุคปัจจุบันว่าเป็นกีฬายอดนิยมชนิดหนึ่ง ( เมื่อเปรียบเทียบกันรูปแบบการต่อสู้แบบต่างๆของเอเซีย ) อาจจะเป็นไปในลักษณะของความจริงสิ่งหนึ่งที่ว่าในยุคโบราณนั้นมีรูปแบบการแข่งขันที่รุนแรงในวัฒนธรรมของศิลปะการต่อสู้ของเกาหลี
กฎกติกากีฬาเทควันโด
รากฐานของเทควันโดคือแทกคียอน รูปแบบการต่อสู้แบบดั้งเดิม ในทางกลับกันแทกคียอนนั้นย้อนอดีตกลับไปสู่ยุคที่เกาหลียังอยู่กันเป็นชนเผ่า แทกคียอนนั้นเป็นการรู้กันในชื่อที่แตกต่างกันไปจากยุคสู่ยุคและถูกพบว่ามีการเติบโตอย่างรวดเร็วในยุคของสามอาณาจักร ( ช่วงระหว่างศตวรรษที่สี่ถึงเจ็ดคราวที่อาณาจักรโกกุเรียว ซิลลาและแบกเชต่อสู้กันเองเพื่อชิงความเป็นใหญ่ในคาบสมุทรเกาหลี ) หลังจากนั้นแทกคียอนมีการพัฒนามากขึ้นและมีวิวัฒนาการในระหว่างยุคกอร์เยว ( ค . ศ . 918 - 1392) ช่วงเวลาที่ผู้ที่มีทักษะในการต่อสู้ได้รับการนับถือกันมาก ระหว่างช่วงเวลานั้น แทคคียอนใช้เป็นเครื่องมือในการเลื่อนยศของกองทัพ แต่สิ่งต่างๆเปลี่ยนไปเมื่อมาถึงยุคโชซอน ( ค . ศ . 1392 -1910) เมื่อมีการใช้ดาบกันมากขึ้น ทำให้แทกคียอนค่อยๆลดต่ำลงจนไม่เห็นคุณค่า ขณะนี้เทควันโดซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากแทกคียอนได้รับการยอมรับว่าเป็นกีฬาระดับโลกซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามอันหนักหน่วงของผู้คนต่างๆมากมาย
เหตุผลว่าเทควันโดสามารถได้รับความสำเร็จแบบนี้ในยุคปัจจุบันว่าเป็นกีฬายอดนิยมชนิดหนึ่ง ( เมื่อเปรียบเทียบกันรูปแบบการต่อสู้แบบต่างๆของเอเซีย ) อาจจะเป็นไปในลักษณะของความจริงสิ่งหนึ่งที่ว่าในยุคโบราณนั้นมีรูปแบบการแข่งขันที่รุนแรงในวัฒนธรรมของศิลปะการต่อสู้ของเกาหลี
กฎกติกากีฬาเทควันโด
เทคนิคการต่อสู้และเป้าหมายที่อนุญาต
มือ --- ใช้ได้เฉพาะสันหมัด เท่านั้น โดยเป้าหมายที่อนุญาต คือบริเวณลำตัวเท่านั้น
เท้า -- ให้ใช้เทคนิคใด ๆ ก้อได้ที่เป็นส่วนของข้อเท้าหรือต่ำกว่า (แข้งไม่ได้คะแนนครับ) โดยอนุญาตให้ใช้แค่ส่วนของลำตัวและใบหน้า (ท้ายทอยไม่อนุญาต ถ้าตั้งใจเตะบริเวณท้ายทอยถือว่าผิดกติกา)
การทำคะแนน
เป้าหมายที่ได้คะแนน
การทำคะแนน
เป้าหมายที่ได้คะแนน
- บริเวณกลางลำตัวคือ บริเวณหน้าท้องและสีข้างทั้งสองข้าง (แถวชายซี่โครง) หรือบริเวณที่เป็นสีน้ำเงินหรือสีแดงของเกราะ
- ใบหน้าเฉพาะด้านหน้า ไม่อนุญาติให้เตะบริเวณส่วนท้ายทอยหรือหัวด้านหลัง ถ้าเจตนาเตะอาจจะถูกตัดคะแนนได้แล้วแต่วิจารณญาณของกรรมการ
การได้คะแนน
- ผู้เข้าแข่งขันจะได้คะแนนก้อต่อเมื่อได้ใช้เทคนิค การเตะ ต่อย หรือถีบ กระทำต่อเป้าหมายที่กำหนดได้อย่างแม่นยำ และรุนแรง (โดยพิจารณาจากการที่คู่ต่อสู้ มีอาการเซ ผงะไปตามแรงกระทำ หรือล้ม จุก) อย่างไรก้อตามหากคู่ต่อสู้ล้มเนื่องจากการเข้ากระทำในส่วนที่เป้นสีขาว(ส่วนที่ไม่เป้นคะแนน) ก้ออาจจะอนุโลมให้ได้
- การให้คะแนนแต่ละครั้งให้นับครั้งละ 1 คะแนน เตะบริเวณหัว/ใบหน้าได้ 2 คะแนน (บางแมทการแข่งขันอาจะนับแค่1 คะแนน แล้วแต่จะตกลงกันในใบระเบียบการครับ)
- คะแนนรวมตลอดการแข่งขัน คือผลรวมของคะแนนทั้งสามยก
จะไม่มีการนับคะแนนก็ต่อเมื่อ
- ผู้เข้าแข่งขันล้มลง โดยเจตนาทันทีหลังจากการเข้าทำคะแนนได้
- ผู้เข้าแข่งขันแสดงอาการกิริยาอันไม่สมควร (โห่ร้อง กระโดโลดเต้น เข้ากอด รัด หรือเหยียบซ้ำ ) หลังจากการเข้าทำคะแนนได้ ผู้เข้าแข่งขันใช้เทคนิคการต่อสู้ที่นอกเหนือไปจากที่อนุญาติ เช่น (เข่า ศอก ศีรษะ เป็นต้น)
ปรับปรุงใหม่ 2552
ตามที่สหพันธ์เทควันโดโลก (World Taekwondo Federation) ได้มีการประชุม International Referee Selection Training Camp for the Beijing Games เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2550 ที่ผ่านมา ได้มีการแก้ไข กฎกติกาการแข่งขันกีฬาเทควันโด ดังต่อไปนี้

เกิดจากการเตะเข้าทุกที่ ที่ครอบคลุมด้วยเกราะป้องกันลำตัว (Trunk Protector) ยกเว้นเตะเข้าบริเวณกระดูกสันหลังจะไม่ได้คะแนนเกิดจากการเตะเข้าที่ศีรษะและใบหน้าโดยการใช้เทคนิคด้วยเท้าเท่านั้น ยกเว้นบริเวณด้านหลังของศีรษะจะไม่ได้คะแนน
Article 14. ข้อห้ามและบทลงโทษต่าง ๆ
การตัดคะแนน (Kyong-go)การออกนอกเส้นสนามแข่งทั้งสองเท้าไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ จะโดนตัดคะแนน (Kyong-go) โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า (joo-eui) ยกเว้นจะถูกผลักด้วยมือ หรือ ไหล่ของคู่ต่อสู้การล้ม จะถูกตัดคะแนนในทุก ๆ ครั้งที่ล้มโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า (joo-eui) ยกเว้นเป็นการล้มที่เกิดจากการต่อสู้ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ผู้ตัดสินจะอนุญาตให้นักกีฬาเตรียมต่อสู้ดูชั้นเชิงคู่ต่อสู้ประมาณ 5 วินาที หลังจากที่บอกให้เริ่มแข่งขัน (shi-jak) และนาฬิกาควบคุมการแข่งขันจะเริ่มนับ หากไม่ทำการต่อสู้ภายใน 10 วินาที จะถูกตัด Kyong-go ทันที โดยเฉพาะนักกีฬาที่ถอยเมื่อคู่ต่อสู้จะเข้าทำคะแนนการยกเข่าขึ้นบังหรือ Block การเตะของคู่ต่อสู้ด้วยเข่า หรือการใช้เทคนิคที่นอกเหนือจากกีฬาเทควันโดจะต้องถูกตัด Kyong-go
การตัดคะแนน (Kyong-go)การออกนอกเส้นสนามแข่งทั้งสองเท้าไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ จะโดนตัดคะแนน (Kyong-go) โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า (joo-eui) ยกเว้นจะถูกผลักด้วยมือ หรือ ไหล่ของคู่ต่อสู้การล้ม จะถูกตัดคะแนนในทุก ๆ ครั้งที่ล้มโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า (joo-eui) ยกเว้นเป็นการล้มที่เกิดจากการต่อสู้ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ผู้ตัดสินจะอนุญาตให้นักกีฬาเตรียมต่อสู้ดูชั้นเชิงคู่ต่อสู้ประมาณ 5 วินาที หลังจากที่บอกให้เริ่มแข่งขัน (shi-jak) และนาฬิกาควบคุมการแข่งขันจะเริ่มนับ หากไม่ทำการต่อสู้ภายใน 10 วินาที จะถูกตัด Kyong-go ทันที โดยเฉพาะนักกีฬาที่ถอยเมื่อคู่ต่อสู้จะเข้าทำคะแนนการยกเข่าขึ้นบังหรือ Block การเตะของคู่ต่อสู้ด้วยเข่า หรือการใช้เทคนิคที่นอกเหนือจากกีฬาเทควันโดจะต้องถูกตัด Kyong-go
จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2550
สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย
ประกาศ ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2550
สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย
กฎกติกานี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่การคัดเลือกไปโอลิมปิค ที่ประเทศอังกฤษ เมืองแมนเชสเตอร์ ณ วันที่ 28 – 30 กันยายน 2550
ขอบคุณข้อมูลจาก: www.emacthailand.com/2009/index.php?option, school.obec.go.th/srt/Siriporn/katika.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น